คำชี้แจงการคุ้มครองข้อมูล
ข้อมูลทั่วไป
Sonova AG เป็นบริษัทที่อยู่ภายใต้กฎหมายของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีที่อยู่จดทะเบียนตั้งอยู่ที่ Laubisrütistrasse 28, 8712 Stäfa, Switzerland Sonova AG กระทำการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูล ดำเนินธุรกิจผ่านทางบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ทั่วโลก (รวมเรียกว่า "Sonova" หรือ "บริษัท" หรือ "เรา" หรือ "พวกเรา") ซึ่งกระทำการทั้งในฐานะผู้ควบคุมแบบอิสระและแบบร่วมเกี่ยวกับลูกค้า ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันมือถือและเว็บไซต์ต่างๆ ผู้รับเหมา และคู่ค้าเป็นการเฉพาะ ("เจ้าของข้อมูล")
บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินธุรกิจตามปกติ ดังนั้น จึงได้มีการร่างนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับสากลฉบับนี้ (“นโยบาย”) รวมถึงนำมาใช้งานเพื่ออธิบายแนวทางการปฏิบัติของบริษัทเกี่ยวกับการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล ผลิตภัณฑ์และบริการบางส่วนของบริษัท รวมถึงบริการเฉพาะบางอย่างที่มีในเว็บไซต์นี้อาจมีนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับเสริมที่มีผลบังคับใช้เพิ่มเติมไปจากนโยบายนี้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หรือ “ข้อมูลส่วนตัว” หมายถึงข้อมูลใดก็ตามที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวบุคคลที่ระบุหรือมีข้อมูลให้ระบุถึงได้
“ข้อมูลส่วนตัวที่มีความอ่อนไหว” หรือ “ข้อมูลส่วนบุคคลในหมวดหมู่พิเศษ” หมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถ้าหากรั่วไหลหรือมีการนำไปใช้อย่างผิดกฎหมายแล้ว อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือเป็นอันตรายต่อตัวบุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลได้โดยง่าย ซึ่งตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะรวมไปถึง ข้อมูลที่เปิดเผยเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อทางศาสนาและปรัชญา หรือการเป็นสมาชิกในสหพันธ์ทางการค้า และการประมวลผลข้อมูลพันธุกรรรม ข้อมูลชีวมาตรเพื่อวัตถุประสงค์ในการระบุตัวบุคคลเป็นการเฉพาะ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ หรือข้อมูลที่เกี่ยวกับรสนิยมหรือมุมมองทางเพศของตัวบุคคล บัญชีทางการเงิน ถิ่นที่อยู่ส่วนบุคคล และข้อมูลอื่นใดของตัวบุคคล ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์
“การประมวลผล” หมายถึง การดำเนินการหรือชุดการดำเนินการใดๆ ที่กระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นวิธีการโดยอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม บันทึก จัดระเบียบ จัดโครงสร้าง จัดเก็บ ปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลง กู้คืน ศึกษา ใช้ เปิดเผยโดยการส่งต่อ แจกจ่าย หรือทำให้นำไปใช้ได้ จัดเรียงหรือผสมผสาน จำกัด ลบ หรือทำลาย
“เจ้าของข้อมูล” หมายถึงตัวบุคคลที่ระบุหรือมีข้อมูลให้ระบุถึงได้จากผู้ใดหรือข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใดก็ตามที่รวบรวมและ/หรือประมวลผล สำหรับวัตถุประสงค์ของนโยบายนี้ คำว่าเจ้าของข้อมูลจะหมายถึงลูกค้า ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันมือถือและเว็บไซต์ต่างๆ ผู้รับเหมา และคู่ค้า
“ผู้ควบคุมข้อมูล” หมายถึงบุคคลหรือนิติบุคคล ไม่ว่าจะโดยลำพังหรือร่วมกับผู้อื่น ที่กำหนดวัตถุประสงค์และวิธีในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้และนิยามศัพท์ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะมีความสอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ คำว่า "ผู้ควบคุมข้อมูล" ที่ใช้ในนโยบายฉบับนี้อาจมีการอ้างอิงถึงด้วยคำศัพท์ที่ต่างกันไป แต่บทบาทขั้นพื้นฐานจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียง กรณีที่เป็นไปตามการบังคับใช้ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Information Protection Law - PIPL) ในประเทศจีน บทบาทนี้อาจเรียกในอีกชื่อหนึ่งว่า "ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล"
กฎหมายที่บังคับใช้
บริษัทมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้ (“กฎหมายที่บังคับใช้”) แม้ว่าข้อกำหนดบางประการอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ
ตัวอย่างเช่น ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียง กรณีที่บริษัทมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายต่อไปนี้ตามความเกี่ยวข้อง:
- ข้อบังคับ (EU) 2016/679 ของรัฐสภายุโรปและคณะมนตรียุโรป ลงวันที่ 27 เมษายน 2016 ว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลธรรมดาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและการเคลื่อนย้ายอย่างอิสระของข้อมูลดังกล่าว และการยกเลิก Directive 95/46/EC (ข้อบังคับว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป) (“GDPR”)
- บทบัญญัติสหพันธ์แห่งสวิสว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูล วันที่ 19 มิถุนายน 1992 (“FADP”) ฉบับแก้ไขปี 2020 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2023
- รัฐบัญญัติแคลิฟอร์เนียว่าด้วยความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคปี 2018 (“CCPA”) ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมโดยรัฐบัญญัติแคลิฟอร์เนียว่าด้วยสิทธิความเป็นส่วนตัวปี 2020 (“CPRA”)
- กฎหมายบัญญัติว่าด้วยการควบคุมและการส่งผ่านข้อมูลทางด้านการประกันสุขภาพ (“HIPAA”) กฎหมายมหาชน 104-191 มาตรา 261 ถึง 264 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎหมายบัญญัติว่าด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสุขภาพเพื่อเศรษฐกิจและสุขภาพเชิงคลินิก ร่วมกันกับกฎหมายบัญญัติแห่งสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการฟื้นฟูและการลงทุนต่อปี 2009 (“HITECH”) ตลอดจนระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องซึ่งนำมาปรับใช้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง มาตรฐานสำหรับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสุขภาพที่ใช้ระบุตัวบุคคลได้ กฎด้านความปลอดภัยและกฎว่าด้วยการแจ้งเตือนเมื่อมีการละเมิดความปลอดภัย ซึ่งรวบรวมไว้ใน 45 C.F.R. ส่วนที่ 160 และ 164 (กฎหมายและข้อบังคับทั้งหมดรวมเรียกว่า “HIPAA”)
- กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“PIPL”) กฎหมายความปลอดภัยทางไซเบอร์ (“CSL”) ประมวลกฎหมายแพ่ง กฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยของข้อมูล (“DSL”) ตลอดจนกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและมาตรฐานระดับชาติ (รวมเรียกว่า “กฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลประเทศจีน”)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
- ข้อมูลตัวตน: นามสกุล ชื่อจริง นามแฝง เชื้อชาติ และวันเดือนปีเกิด
- รายละเอียดการติดต่อ: ที่อยู่ไปรษณีย์ หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัว ที่อยู่อีเมลส่วนตัว หรือข้อมูลติดต่อฉุกเฉิน
- หมายเลขประกันสังคม และบริษัทที่ทำประกัน
- ข้อมูลทางการเงิน: วิธีการชำระเงิน (รวมถึงหมายเลขบัตรเครดิตและบัตรเดบิต) ข้อมูลจากสถาบันการเงินและข้อมูลการธนาคาร หมายเลข IBAN ข้อมูลบริษัทประกันสุขภาพหรือข้อมูลประกัน
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งรวมถึงน้ำหนัก ส่วนสูง ประวัติทางการแพทย์ ใบสั่งจ่ายยาจากแพทย์ ขีดความสามารถในการได้ยิน การติดตามกิจกรรมทางกายภาพ (การนับก้าว ความเข้มข้นในการออกกำลังกาย เวลาที่ใช้ออกกำลังกาย) ข้อมูลสภาพร่างกาย (อัตราการเต้นของหัวใจ การใช้พลังงาน ความดันโลหิต)
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้บนเว็บไซต์: ข้อมูลการเรียกดู ที่อยู่อินเทอร์เน็ตโปรโตคอล (IP) คุกกี้ และเครื่องมือเพื่อการติดตามอื่นๆ
- ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ: รุ่น หมายเลขเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ ข้อมูลการใช้งาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีใดก็ตามที่ตั้งโดยเจ้าของข้อมูล รวมถึงข้อมูลประจำตัวเพื่อการเข้าถึงบัญชี (เช่น ชื่อผู้ใช้ หมายเลขบัญชี)
- ข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการ
- ข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอแนะที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้กับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา รวมถึงความคิดเห็นและบันทึกต่างๆ
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะอาศัยพื้นฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอาจมีการใช้พื้นฐานทางกฎหมายอื่นตามตำแหน่งแห่งที่ของเจ้าของข้อมูลและกฎหมายที่บังคับใช้
การประมวลผลตามความยินยอมของเจ้าของข้อมูล
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอาจอิงตามความยินยอมของเจ้าของข้อมูล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์นี้อาจได้แก่
- วัตถุประสงค์เพื่อการตลาด เช่น การส่งจดหมายข่าวและข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บริษัทนำเสนอแก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย/ผู้ที่สนใจ ตลอดจนผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ แอปพลิเคชันมือถือและเว็บไซต์ต่างๆ
- การสร้างบัญชีของเจ้าของข้อมูล
- ผลการวัดประสิทธิภาพในการทดสอบการได้ยินทางออนไลน์
- การจัดทำโปรไฟล์เพื่อส่งข่าวสารอัปเดตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่บริษัทออกแบบและปรับแต่งให้สำหรับเจ้าของข้อมูล โดยอิงตามประสบการณ์ ความสนใจ หรือความชื่นชอบของเจ้าของข้อมูล
- อนุญาตให้เจ้าของข้อมูลเข้าร่วมในการศึกษาทางคลินิก งานวิจัย หรือโครงการริเริ่มเพื่อรับรองคุณภาพ
- การสมัครเข้าร่วมในชุมชนของเราผ่านทางแบบฟอร์มออนไลน์
- การเข้าร่วมในการแข่งขันหรือการจับสลาก
- การเข้าร่วมในการทำแบบสำรวจออนไลน์
- การเข้าร่วมในกิจกรรม การฝึกอบรม หรือการสัมนาออนไลน์
- การเผยแพร่ความคิดเห็นของคุณในแพลตฟอร์มของเราสู่สาธารณะ: โปรดทราบว่าหากคุณตัดสินใจด้วยตนเองที่จะแบ่งปันความคิดเห็นของคุณบนเนื้อหาในบล็อกของเรา ข้อมูลที่คุณเปิดเผยในความคิดเห็น ซึ่งรวมถึงชื่อของคุณ จะเผยแพร่สู่สาธารณะ และทำให้ในชุมชนอ่านข้อความนั้นได้ ตราบเท่าที่บทความนั้นยังคงเผยแพร่อยู่ และ/หรือคุณมีสิทธิตัดสินใจที่จะลบออกได้ โปรดทราบว่า เราจะไม่รับผิดชอบต่อข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งคุณเลือกที่จะส่ง และเราจะไม่รับผิดชอบต่อการเผยแพร่ บันทึก ลบออก หรือแก้ไขการแสดงความคิดเห็นสาธารณะของคุณ
ในการประมวลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้น เราจะส่งคำขอความยินยอม ณ จุดที่ทำการติดต่อ โดยมีการระบุข้อมูล มีความเฉพาะเจาะจงและชัดเจน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้และข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับความยินยอม
การประมวลผลตามสัญญา
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอาจอิงตามการปฏิบัติตามสัญญาหรือมาตรการก่อนเข้าสู่การทำสัญญากับเจ้าของข้อมูล และอาจเกี่ยวข้องกับ:
- การปฏิบัติตามสัญญาหรือข้อผูกมัดก่อนเข้าสู่การทำสัญญากับเจ้าของข้อมูล รวมถึงการดำเนินการทางเทคนิคและฟังก์ชันการทำงานของผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้รับ
- การให้บริการหลังการขายหลังจากที่ซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ
- การประมวลผลข้อมูลประกัน / ประกันสังคม รวมถึงการเรียกเก็บเงินผู้ให้บริการประกันแก่เจ้าของข้อมูลสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ได้รับ
- การบริหารจัดการและหาข้อยุติให้การเคลมประกัน
- การให้คำแนะนำและโต้ตอบกับเจ้าของข้อมูลเมื่อเจ้าของข้อมูลติดต่อกับบริษัท เช่นผ่านทางแบบฟอร์มการติดต่อ ฟังก์ชันการแสดงความคิดเห็น ฟังก์ชันระบบแชทสนทนา อีเมลต่างๆ
- การติดต่อกับเจ้าของข้อมูลเพื่อตอบกลับคำขอทางเทคนิค ข้อเรียกร้องและข้อสอบถามที่เจ้าของข้อมูลอาจแจ้งผ่านทางแบบฟอร์มของเราและเพื่อให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่เจ้าของข้อมูล
- การติดต่อกับเจ้าของข้อมูลเพื่อให้ความช่วยเหลือ / บริการในเชิงพาณิชย์ตามที่ร้องขอแก่เจ้าของข้อมูลหรือตัวแทน เพื่อนัดหมายให้ทดสอบผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรากับผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินหรือผู้ให้บริการที่ใกล้ชิดกับเจ้าของข้อมูลที่สุด
การประมวลผลตามผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมาย
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอาจอิงตามประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของเรา ประสบการณ์ของเจ้าของข้อมูล และกระบวนการภายในของเรา ตามขอบเขตที่กฎหมายท้องถิ่นกำหนด การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์นี้อาจได้แก่
- การวิเคราะห์ทางสถิติ/การใช้งาน
- การดำเนินงานด้านการบริหารจัดการภายใน
- การป้องกันกิจกรรมที่เป็นการฉ้อโกงและปรับปรุงระบบความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียง กรณีที่เราจะประมวลผลที่อยู่อีเมลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งรหัสที่สร้างขึ้นแบบสุ่มเพื่อยืนยันความถูกต้องในกระบวนการล็อกอินของคุณให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งใช้ในกลไกการพิสูจน์ตัวตนหลายปัจจัยเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- การจัดการความสัมพันธ์กับเจ้าของข้อมูล
- การประเมินความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา
- การวิเคราะห์ประสิทธิภาพเว็บไซต์ เพื่อปรับปรุงบริการและฟังก์ชันการทำงานให้กับเว็บไซต์ของเรา
- การทำการตลาดผลิตภัณฑ์หรือบริการที่นำเสนอโดยบริษัทแก่คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้รับเหมา หรือผู้ค้าที่มีอยู่ของเรา โปรดทราบว่า ในกรณีที่จำเป็น Sonova จะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในด้านการตลาด
การประมวลผลข้อมูลตามพื้นฐานอื่นๆ
บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้และพื้นฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม (ในกรณีที่ทำได้)
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวหรืออยู่ในหมวดหมู่พิเศษของเรา อาจต้องการพื้นฐานทางกฎหมายอื่นเพื่อประมวลผล หรืออาจได้ประโยชน์จากการคุ้มครองในระดับพิเศษ โดยเฉพาะในด้านการรักษาความปลอดภัยและมาตรการรักษาความลับที่นำมาใช้ ขึ้นอยู่กับประเทศที่เจ้าของข้อมูลพำนักอาศัย
คุกกี้และเครื่องมือติดตามอื่นๆ
คุกกี้และเครื่องมือติดตามอื่นๆ เป็นไฟล์ขนาดเล็กที่จัดเก็บในเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ เพื่อการติดตามข้อมูลผู้เยี่ยมชม และช่วยให้ Sonova ทำให้ข้อเสนอบนหน้าเว็บมีความเกี่ยวข้องกับคุณมากยิ่งขึ้น ระหว่างที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา Sonova อาจใช้คุกกี้และเครื่องมือติดตามอื่นๆ ทั้งสี่ประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของเว็บไซต์ ระยะเวลาในการจัดเก็บจะขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ซึ่งเกี่ยวข้องกัน เราจะมีประกาศความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับคุกกี้เป็นฉบับเสริมแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับคุกกี้ที่ใช้งานในเว็บไซต์ที่คุณกำลังเข้าชม ขึ้นอยู่กับกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งมีผลบังคับใช้
เราใช้คุกกี้และเครื่องมือติดตามอื่นๆ เพื่อ:
- รับข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของคุณ ชื่อโดเมน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ระบบปฏิบัติการของคุณ วันและเวลาที่เข้าถึง ตำแหน่งที่ตั้ง ประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ของเราและดำเนินการด้านการจัดการระบบ
- รับข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์อื่นๆ ที่คุณได้เยี่ยมชมหรือประเภทการค้นหาที่คุณใช้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ที่คุณได้รับ
- ป้องกันกิจกรรมการฉ้อโกงและปรับปรุงความปลอดภัย
- ทราบและวิเคราะห์ความชอบของคุณในการเรียกดูเว็บไซต์และผลิตภัณฑ์ที่คุณสนใจ
- นำไปประกอบกับข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของคุณก่อนหน้านี้ หลังจากที่คุณได้ลงทะเบียนรายละเอียดของคุณบนเว็บไซต์ของ Sonova เพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและทางเทคนิค
เราจะเป็นผู้กำหนดคุกกี้และเครื่องมือติดตามอื่นๆ บางประเภทที่ใช้งานโดยเว็บไซต์ของเรา และมีบางส่วนซึ่งบุคคลที่สามในนามของ Sonova เป็นผู้กำหนดด้วย การใช้งานคุกกี้และเครื่องมือติดตามอื่นๆ ของเราจากบุคคลที่สามจะทำให้มีการปรับแต่งการโฆษณา ซึ่งหมายความว่าคุณอาจเห็นโฆษณา Sonova บนเว็บไซต์อื่นๆ ที่คุณเข้าชมได้
เราอาจใช้คุกกี้และเครื่องมือติดตามอื่นๆ ในประเภทต่อไปนี้ โดยขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง:
- คุกกี้ที่จำเป็นอย่างยิ่ง: คุกกี้เหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับเราในการมอบฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานของเว็บไซต์ของเราให้แก่คุณและไม่สามารถปิดใช้งานในระบบของเราได้
- คุกกี้เพื่อประสิทธิภาพการทำงานและการวิเคราะห์: คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้เราสามารถใช้นับจำนวนผู้เข้าชมและแหล่งต้นทางที่เข้ามาเพื่อชี้วัดและพัฒนาประสิทธิภาพเว็บไซต์ของเราได้
- คุกกี้ด้านฟังก์ชัน: เราใช้คุกกี้เหล่านี้เพื่อมอบฟังก์ชันการใช้งานและการปรับแต่งสำหรับแต่ละบุคคลที่ดียิ่งขึ้นระหว่างการเยี่ยมชมของคุณ
- คุกกี้กำหนดเป้าหมายหรือการโฆษณา: คุกกี้เหล่านี้อาจตั้งค่าไว้ผ่านทางเว็บไซต์ของเราโดยพันธมิตรด้านการโฆษณาของเราเพื่อสร้างโปรไฟล์ความสนใจของคุณและเสนอโฆษณาที่สอดคล้องกัน
คุกกี้แต่ละประเภทจะมีวัตถุประสงค์จำเพาะ และคุณจะให้ความยินยอมเป็นการเฉพาะตามแต่ละวัตถุประสงค์ได้โดยง่ายบนเว็บไซต์ของเรา เมื่อยอมรับคุกกี้ทั้งหมด คุณจะได้รับประสบการณ์บนเว็บไซต์ที่เหมาะสมสำหรับคุณที่สุด เราอนุญาตให้คุณเลือกได้ว่าต้องการยอมรับหรือบล็อกคุกกี้ประเภทใด แต่การเลือกอาจส่งผลต่อประสบการณ์ที่คุณจะได้รับบนเว็บไซต์และบริการที่เรามอบให้ (ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น) คุณสามารถใช้บริการได้แม้ในกรณีที่คุณปฏิเสธความยินยอมคุกกี้บางประเภท เว้นแต่มีการปฏิเสธคุกกี้ประเภทที่จำเป็นอย่างยิ่ง คุณสามารถเพิกถอนหรือแก้ไขความยินยอมของคุณได้ตลอดเวลาโดยเข้าไปที่หน้า “ตัวเลือกเกี่ยวกับคุกกี้”
วิธีการให้ความยินยอมสำหรับวัตถุประสงค์แต่ละข้อโดยเฉพาะหรือยอมรับคุกกี้ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับกฎหมายที่ใช้บังคับที่เกี่ยวข้องกับคุกกี้ในประเทศของคุณ ซึ่งสามารถพบได้อย่างง่ายดายและมีอธิบายไว้ในแบนเนอร์คุกกี้
หากคุณไม่สนใจที่จะรับประโยชน์จากคุกกี้ของเรา เบราว์เซอร์ของคุณจะมีฟังก์ชัน “วิธีใช้“ ซึ่งจะให้คำแนะนำถึงวิธีการป้องกันคุกกี้หรือลบคุกกี้ที่มีอยู่เดิมได้ นอกจากนี้ คุณสามารถเรียนรู้วิธีการบล็อกคุกกี้ใหม่บนเบราว์เซอร์และเรียนรู้ขั้นตอนการกำหนดค่าที่จำเป็นในการรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับคุกกี้ใหม่ได้
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับคุกกี้จะอยู่ในเว็บไซต์: http://www.allaboutcookies.org/ หรือ https://cookiepedia.co.uk
จะมีการแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของคุกกี้และเครื่องมือติดตามอื่นๆ ที่เว็บไซต์เก็บรวบรวมที่แบนเนอร์คุกกี้และส่วนของคุกกี้นั้น
ปลั๊กอินโซเชียลมีเดีย
ปลั๊กอินโซเชียลมิเดียเป็นส่วนหนึ่งของหน้าเว็บบางหน้าของ Sonova และใช้สำหรับผู้ให้บริการโซเชียลมีเดีย ("ผู้ให้บริการ") เช่น Facebook, Instagram, Twitter, LinkedIn, Google+ และ Youtube เมื่อคุณเยี่ยมชมหน้าเว็บใดก็ตามโดยคลิกปลั๊กอินดังกล่าว เบราว์เซอร์ของคุณจะเชื่อมต่อไปที่เซิร์ฟเวอร์โซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้อง และในเวลาเดียวกันผู้ให้บริการนั้นๆ จะทราบว่าคุณได้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราก่อนที่จะไปยังเว็บไซต์โซเชียลมีเดียนั้น หากคุณลงทะเบียนแล้วและได้เข้าสู่ระบบของผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง การเยี่ยมชมของคุณอาจถูกเชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ของคุณเช่นกัน ผู้ให้บริการทั่วไปจะไม่ให้ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงว่ามีการส่งข้อมูลใดในการใช้งานปลั๊กอินโซเชียลมีเดีย ดังนั้น เราจึงไม่สามารถตรวจสอบยืนยันเนื้อหาและขอบเขตของข้อมูลที่มีการส่งต่อหรือการใช้งานข้อมูลดังกล่าวโดยผู้ให้บริการนั้นๆ ได้ กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปลั๊กอินโซเชียลมีเดีย ในส่วนเงื่อนไขการคุ้มครองข้อมูลของผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้อง หากคุณไม่ต้องการให้ผู้บริการเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณผ่านเว็บไซต์ของเรา กรุณาปิดการใช้งานปลั๊กอินในเว็บเบราว์เซอร์ของคุณ หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ใดๆ ที่มีอยู่เดิม โปรดออกจากระบบของหน้าเว็บโซเชียลมีเดียนั้นๆ ก่อนที่จะเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา
ลิงก์ของบุคคลที่สาม
นโยบายนี้มีผลใช้บังคับกับการใช้งานเว็บไซต์นี้เท่านั้น เราอาจมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามซึ่งคุณอาจสนใจ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่า Sonova ไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาและความพร้อมให้บริการของเว็บไซต์ดังกล่าว และไม่สามารถรับประกันแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยของเว็บไซต์เหล่านั้นได้
การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่ถูกเก็บไว้นานเกินความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น ซึ่งหมายความว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกลบทันทีที่วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นลุล่วงแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้นานกว่านั้นหากกฎหมายที่บังคับใช้ระบุไว้เพื่อคุ้มครองหรือใช้สิทธิของเราตามขอบเขตที่อนุญาตให้กระทำได้
เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษา บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในคลังภายในระยะเวลาและการเข้าถึงที่จำกัดเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
ระยะเวลาในการเก็บรักษาอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเทศที่เจ้าของข้อมูลพำนักอยู่และเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมของเจ้าของข้อมูลและ/หรือพื้นฐานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แก่บุคคลที่สามต่อไปนี้:
- คู่ค้าทางธุรกิจที่ให้บริการในนามของเรา เช่น ฝ่ายสนับสนุนทางเทคนิค เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด หรือการมอบบริการต่างๆ ในประเภทอื่น
- หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานเอกชน เท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริการที่ได้รับการร้องขอหรือได้รับอนุญาต เพื่อคุ้มครองสิทธิ ทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูล หรือของเรา หรือของผู้อื่น เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับบริการของเรา หรือหากเราได้รับการร้องขอให้กระทำเช่นนั้นเนื่องด้วยกฎหมาย คำสั่งศาล หรือระเบียบข้อบังคับภาครัฐที่บังคับใช้ หรือหากการเปิดเผยข้อมูลนั้นมีความจำเป็นอื่นใดในการสนับสนุนต่อกระบวนการทางกฎหมาย หรือการสืบสวน หรือการดำเนินคดีตามกฎหมาย
- บุคคลที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลหรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่บังคับใช้ เพื่อมีส่วนร่วมในการดูแลเจ้าของข้อมูล รวมไปถึงครอบครัว เพื่อนสนิท หรือบุคคลอื่นๆ
เราจะทำสัญญากับบุคคลที่สามบางรายเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการประมวลผลตามคำแนะนำของเราและเป็นไปตามนโยบายนี้รวมถึงมาตรการรักษาความลับและความปลอดภัยอื่นๆ ที่เหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับกฎหมายที่ใช้บังคับ
อาจมีเหตุจำเป็นให้กระทำการสรุปข้อมูลสัญญาต่างๆ ภายในกลุ่มบริษัท Sonova กับบริษัทสาขาย่อย และบริษัทในเครือเป็นระยะ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของระเบียบข้อบังคับ ในวัตถุประสงค์นี้ บริษัทสาขาย่อยและบริษัทในเครือของ Sonova จะได้รับการพิจารณาว่าเป็น “บุคคลที่สาม” ด้วยเช่นกัน
การถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล
บุคคลที่สามที่กล่าวมาข้างต้น เช่น บริษัทสาขาย่อยและบริษัทในเครือของ Sonova ตลอดจนคู่ค้าทางธุรกิจ หน่วยงานเอกชน ที่เราเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ อาจตั้งอยู่นอกเขตประเทศของคุณ ซึ่งอาจรวมถึงประเทศที่มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลแตกต่างไปจากที่ใช้ในประเทษที่เจ้าของข้อมูลอาศัยอยู่
หากข้อมูลส่วนบุคคลถูกประมวลผลภายในสหภาพยุโรป/เขตเศรษฐกิจยุโรป และในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่สามในประเทศที่พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถให้การคุ้มครองในระดับที่เพียงพอได้ตามที่คณะกรรมาธิการยุโรปกำหนดไว้ บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติดังต่อไปนี้
- มีการใช้ขั้นตอนปฏิบัติที่เพียงพอเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำเป็นต้องมีการขออนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีอำนาจ
- มีการป้องกันในองค์กร ทางเทคนิค และทางกฎหมายที่เหมาะสมในการควบคุมการถ่ายโอนดังกล่าว และเพื่อให้แน่ใจว่ามีระดับการคุ้มครองที่จำเป็นและเพียงพอภายใต้กฎหมายที่ใช้บังคับ
- มีการใช้ข้อสัญญามาตรฐานตามที่คณะกรรมาธิการยุโรปนำมาใช้ หากจำเป็น
- บุคคลที่สามที่นำเข้าข้อมูลจะต้องใช้มาตรการเพิ่มเติม เช่น ทำแบบประเมินความเพียงพอในการถ่ายโอนข้อมูล และใช้มาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งผ่านเมื่อมีการร้องขอ หากจำเป็น และขึ้นอยู่กับประเทศของบุคคลที่สามนั้น
หากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ประมวลผลภายในสหภาพยุโรป/เขตเศรษฐกิจยุโรป และในกรณีที่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สามที่อยู่นอกประเทศของคุณ บริษัทจะทำให้มั่นใจได้ว่ามีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยใช้กลไกทางกฎหมายที่เหมาะสม กลไกเหล่านี้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเทศและกฎหมายที่ใช้บังคับที่เกี่ยวข้อง
หากข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล อยู่ภายใต้การบังคับใช้ของกฎบัญญัติ FADP หรือ PIPL และมีการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างประเทศ เจ้าของข้อมูลจะได้รับแจ้งให้ทราบว่ามีการถ่ายโอนข้อมูลเหล่านี้ผ่านทางประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับเสริม ประกาศดังกล่าวจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมและการคุ้มครองต่างๆ เกี่ยวกับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลนอกประเทศสวิตเซอร์แลนด์และจีนตามลำดับ
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับเรา เราจะใช้กระบวนการทั้งหมดที่สมเหตุสมผลตามที่จำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ามีการดูแลข้อมูลส่วนบุคคลให้ปลอดภัยและเป็นไปตามนโยบายนี้
Sonova นำมาตรการความปลอดภัยที่หลากหลายมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากเหตุการณ์ผิดปกติด้านความปลอดภัยหรือการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรการความปลอดภัยเหล่านี้เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมในอุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากมาตรการอื่นๆ แล้ว ยังรวมถึงการควบคุมการเข้าถึง รหัสผ่าน การเข้ารหัส และการประเมินความปลอดภัยเป็นประจำ
พนักงานทั้งหมดที่อาจทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นที่จะต้องผ่านการฝึกอบรมอย่างเหมาะสมตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้เพื่อให้มั่นใจว่าจะเป็นไปตามกฎระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล
เราจะตรวจสอบกระบวนการรักษาความปลอดภัยของเราอยู่เสมอเพื่อพิจารณาถึงเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ๆ ที่เหมาะสม
สิทธิความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองขึ้นอยู่กับกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งมีผลบังคับใช้ เช่น สิทธิในการขอเข้าถึง แก้ไขให้ข้อมูลถูกต้อง ลบข้อมูลส่วนบุคคล จำกัดการประมวลผล คัดค้านการประมวลผล ขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้มีการแจ้งให้ทราบ และสิทธิเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมของคุณได้ นอกจากนี้ เจ้าของข้อมูลยังสามารถคัดค้านการตัดสินใจโดยอัตโนมัติหากมีความกังวลเกี่ยวกับการประมวลผลดังกล่าว
การใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องของเจ้าของข้อมูลจะต้องดำเนินการตามการนับเวลาทางกฎหมายที่ระบุไว้ในกฎหมายที่บังคับใช้
นอกจากนี้ กฎหมายที่บังคับใช้บางฉบับอาจระบุถึงข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเก็บ การสื่อสาร และการลบข้อมูลส่วนบุคคลหลังจากที่เจ้าของข้อมูลเสียชีวิตแล้ว
หากต้องการใช้สิทธิความเป็นส่วนตัวเหล่านี้ เจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อหาเราได้ในช่องทางที่ระบุไว้ในส่วน “วิธีการติดต่อเรา” ด้านล่าง เราอาจขอหลักฐานยืนยันตัวตนเพื่อดำเนินการตามคำขอของคุณ หากเราดำเนินการต่อคำขอนั้นในลักษณะซึ่งไม่เป็นที่พอใจ (ปฏิเสธหรือจำกัด) เราจะจัดทำเอกสารแจ้งการตัดสินใจของเราเป็นลายลักษณ์อักษร
การใช้สิทธิดังกล่าวจะไม่เป็นไปโดยเบ็ดเสร็จและอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมายที่ใช้บังคับ การใช้สิทธิเหล่านี้จะต้องไม่ทำให้ใครถูกตอบโต้เอาคืนหรือเลือกปฏิบัติได้
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานกำกับดูแลในท้องถิ่นหรือหน่วยงานกำกับดูแลที่มีอำนาจหากเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองเป็นการละเมิดกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ
การเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้
เราอาจปรับปรุงนโยบายนี้เป็นระยะเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวรูปแบบใหม่หรือต่างไปจากเดิม ในกรณีดังกล่าว เราจะเผยแพร่นโยบายฉบับที่มีการเปลี่ยนแปลงไว้ในหน้านี้ นโยบายฉบับแก้ไขจะมีผลบังคับกับข้อมูลที่รวบรวมหลังวันที่มีผลบังคับใช้เท่านั้น เราขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลเข้ามาตรวจสอบที่หน้านี้เป็นระยะเพื่อดูข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวของเรา
วิธีการติดต่อเรา
หากมีคำถาม ความคิดเห็น หรือข้อกังวลเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือต้องการใช้สิทธิด้านความเป็นส่วนตัวซึ่งกฎหมายที่บังคับใช้อนุญาตให้กระทำได้เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาติดต่อหาเจ้าหน้าที่ด้านการคุ้มครองข้อมูลของเราที่:
Sonova AG
Attn: Data Protection Officer
Laubisruetistrasse 28
8712 Stäfa, Switzerland
+41 58 928 01 01
privacy@sonova.com
มีผลใช้งานตั้งแต่: เมษายน 2025